สกุลแวนดอปซิส
(
Vandopsis )
เป็นกล้วยไม้ประเภทไม่แตกกอ
แม้ว่ากล้วยไม้ภายในสกุลนี้มีเพียงไม่กี่ชนิด แต่ละชนิดกมีบทบาทในด้านการผสมพันธุ์ให้ลูกผสมที่มีลักษณะน่าสนใจมาก
ได้มีผู้นำไปผสมพันธุ์เพื่อผลิตลูกผสมที่สวยงาม แหล่งกำเนิดของกล้วยไม้สกุลนี้อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นเขตร้อน
ลักษณะทั่วไปของกล้วยไม้สกุลนี้คือ
มีลำต้นแข็งแรง ใบหนา และแข็ง บางชนิดทรงต้นสูงใหญ่ แต่บางชนิดทรงต้นเตี้ย
บางชนิดช่อดอกยาวมาก แต่ช่วงระหว่างดอกค่อนข้างห่าง บางชนิดช่อดอกสั้น
และมีดอกค่อนข้างแน่น โดยทั่ว ๆ ไปกลีบดอกจะหนา และแข็งแรงมาก
ดอกบานผึ่งผาย ส่วนของหูปากทั้งสองข้างเชื่อมต่อกับโคนเส้าเกสร
หูปากเล็ก และแข็ง ในคอของปากระหว่างกลางหูปากทั้งสองข้างมีส่วนคล้ายลิ้นยื่นออกมา
โคนแผ่นปากมีลักษณะเป็นสันนูนขึ้นมาจากด้านใต้ของลิ้น แผ่นปากค่อนข้างยาวเมื่อเทียบกับแผ่นปากจากดอกกล้วยไม้สกุลแวนด้า
แข็ง และอวบน้ำ เส้าเกสรสั้น กลีบดอกทั้งกลีบชั้นนอก และกลีบชั้นในกว้าง
มีขนาดและรูปร่างที่คล้ายคลึงกัน เกสรตัวผู้มี 2 คู่ ติดอยู่บนก้าน
ซึ่งมีลักษณะเป็นเยื่อเหนียว กล้วยไม้ในสกุลแวนดอปซิสที่น่าสนใจ
และมีบทบาทในด้านการผสมพันธุ์มีอยู่ 3 ชนิด คือ
1.เขาพระวิหาร (
Vandopsis Lissochiloides ) ต้นมีขนาดใหญ่ รูปทรงค่อนข้างสูง
ช่อดอกอาจยาวได้ถึง 2 เมตร ช่วงระหว่างดอกค่อนข้างห่างกลีบดอกหนา
สีดอกด้านหน้าพื้นสีเหลืองประจุดสีม่วงปนน้ำตาล พันธุ์ที่พบในประเทศไทย
และเขมร ด้านหลังดอกมีสีขาว ส่วนพันธุ์ที่พบในฟิลิปปินส์หลังดอกมีสีม่วง
สำหรับพันธุ์ที่อยู่ในประเทศไทยพบขึ้นบนเขาหินปูนบริเวณชายแดนติดต่อระหว่างไทยกับเขมร
2.พญาฉัตรทัณต์ (
Vandopsis gigantea ) เป็นกล้วยไม้ที่มีขนาดต้นค่อนข้างใหญ่
และมีรูปทรงล่ำสัน ช่อดอกไม่ยาว และมีดอกภายในช่อไม่มากนัก กลีบดอกหนามาก
กลีบดอกพื้นมีสีเหลืองไม่สด ประจุดสีม่วงน้ำตาล เป็นชนิดที่มีแหล่งกำเนิดอยู่ในภาคใต้ของไทย
3.เอื้องลิ้นกระบือ (
Vandopsis parishii ) ลักษณะทรงต้นเตี้ย ใบหนา ก้านช่อดอกค่อนข้างยาวถ้าเปรียบกับความสูงของต้น
เป็นกล้วยไม้ชนิดที่มีขนาดต้นเล็กกว่าสองชนิดแรกมาก ช่วงระหว่างดอกบนก้านช่อค่อนข้างห่างกัน
กลีบดอกหนา
|